วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน

1. Lithium-air batteries
โครงการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิด Lithium-air ได้รับการพัฒนาโดย สถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology) เมื่อปี 2011 เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก ที่มีขนาดเบา และมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบตเตอรี่มาตรฐานทั่วไป ลดปัญหาการแบกรับน้ำหนักเครื่องมือของทหาร โดยแบตเตอรี่ Lithium-air ชนิดนี้มีค่าความจุพลังงานถึง 2500 Watt hour per kilogram
2. Solar Soldier project
โครงการพัฒนาแหล่งพลังงานขนาดเล็กจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Photovoltaic และ thermoelectric cell) เพื่อให้สามารถพกพา และที่ติดตั้งบนเครื่องแบบ/สัมภาระของทหารได้ ซึ่งนอกจากจะลดภาระการแบกน้ำหนักของทหารแล้ว ยังเป็นการใช้พลังงานสะอาดในภาคการทหารอีกด้วย การพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารดังกล่าวนี้ได้รับการพัฒนาในหลายประเทศเช่น กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร และกองทัพออสเตรเลีย
3. Solar panels
โครงการพัฒนาแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับฐานทัพหน้า ซึ่งพัฒนาโดย กองทัพบกสหรัฐฯ ด้วยการลงทุนถึง 344 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งประกาศว่า ภายในปี 2011 จะสามารถพัฒนาและติดตั้งแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง 160,000 แผ่น ให้กับฐานทัพต่างๆ เพื่อลดการใช้ และพึ่งพาพลังงานจากภาคพลังงานของเอกชน ตลอดจนเพื่อให้กองทัพบกสหรัฐฯ สามารถใช้พลังงานสะอาดที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ 25 % จากทั้งหมด ภายในปี 2025
4. Water filtration and re-use systems
โครงการพัฒนาระบบกรองน้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นโครงการโดยกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบระบบที่ห้องทดลอง The System Integration Laboratory ณ Fort Devens, Massachusetts ประเทศสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำของที่ตั้งทางทหารต่างๆ
5. Organic LED night vision devices
โครงการพัฒนากล้องส่องกลางคืน โดยการนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เช่น Organic Light Emitting Diodes (LEDs) และ เทคโนโลยี thin-film มาประยุกต์ใช้ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือของ DARPA และ University of Florida โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลดการใช้พลังงานของยุทโธปกรณ์ทางทหารชนิดนี้ ซึ่งการวิจัยพบว่า กล้องส่องกลางคืนที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว มีความต้องการพลังงานเพียง 5 volts ตลอดจนส่งผลให้มีน้ำหนักเบาขึ้นลดภาระการแบกน้ำหนักของทหารอีกด้วย
6. Air conditioning
จากการปฏิบัติการทหารทหาร ณ ประเทศอิรัก และอาฟกานิสถานของกองทัพสหรัฐ ในปี 2011 พบว่า กองทัพสหรัฐใช้งบประมาณด้านพลังงานสำหรับการปรับอากาศภายในฐานทัพหน้าถึง 20.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดแนวคิดในการประหยัดพลังงานด้วยการพัฒนาที่พักทหารโดยการใช้ Polyurethane foam เป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งจากการทดลอง พบว่ามีการลดการใช้พลังงานถึง 92%
7. Landfill methane
โครงการพัฒนาโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซมีเทนใต้ดิน ณ Fort Benning Garrison, Alabama ประเทศสหรัฐฯ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Flex Energy ด้วยการสนับสนุนการลงทุนจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Department of Defense’s Environmental Security Technology Certification Programme ซึ่งโรงงานดังกล่าวสามารถเปลี่ยนพลังงานก๊าซมีเทน เป็นพลังงานไฟฟ้าได้จำนวนมากโดยสามารถสนับสนุนการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 250 หลังคาเรือนต่อปี
8. Decentralising heat plants
โครงการพัฒนา/ปรับปรุงโรงงานผลิตไอร้อน ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยการปรับปรุงระบบการจ่ายไอร้อนจากการรวมการ (Centralized) เป็นแบบกระจาย (Distribution) เพื่อลดอัตราการใช้พลังงานตามข้อกำหนดของรัฐบาลสหรัฐ ปีละ 3% จนถึง ปี 2015
9. US Navy biofuel programs
โครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกจากชีวภาพ โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ ร่วมกับ กระทรวงเกษตร (U.S. Department of Agriculture (USDA) ) ในการพัฒนาพลังงานทางเลือกดังกล่าว และได้นำมาใช้งานในยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของ กองทัพเรือ ภายใต้โครงการ ‘Green Hornet’ อันประกอบด้วย F/A-18 Super Hornet ซึ่งได้ใช้พลังงานผสม 50/50 camelina biofuel blen  ใน เมษายน 2010 เป็นต้น ซึ่งหลังจากนั้นได้มีกองทัพเรือได้ปรับการใช้พลังงานทางเลือกไปสู่ยุทโธปกรณ์อื่นๆ เป็นจำนวนมาก เช่น ฮ.Seahawk, บ.F-22 Rapter และระบบอากาศยานไร้นักบินอย่าง MQ-8B Fire Scout
10. Fuel cells
โครงการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อเป็นระบบสำรองพลังงานให้กับฐานทัพของกองทัพสหรัฐฯ แทนการใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าพลังงานดีเซลได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยกระทรวงพลังงาน ร่วมกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านพลังงานให้กับกองทัพ และเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดการใช้งบประมาณทั้งในด้านการบำรุงรักษา และเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตของทหาร

เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก

 เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก  (Assistive Technology)


 เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก
หมายถึง เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาขึ้นหรือดัดแปลงจากที่มีอยู่เดิม
นำมาผลิตเป็นอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่
เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้พิการให้สามารถทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ
ในชีวิตประจำวันได้แบบพึ่งพิงตัวเอง(Independent living)
หรือพึ่งพิงผู้อื่นน้อยที่สุด  และมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ครอบคลุมไปถึงการให้บริการ การประยุกต์ใช้
และการนำไปปฏิบัติเพื่อลดอุปสรรคในการทำกิจกรรมของผู้พิการ


กฎหมายสาธารณะของสหรัฐอเมริกา [Public Law (PL)] ว่าด้วยเรื่อง Technology
Related Assistance for Individuals with Disabilities Act (Tech Act) และ
Individuals with Disabilities Education Act (IDEA) ได้ให้คำจัดความของ
อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก (Assistive Technology Device)
และการบริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก (Assistive Technology Service)
ดังนี้


อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก 


หมายถึง
"อุปกรณ์ต่างๆ ชิ้นส่วนของอุปกรณ์  หรือผลิตภัณฑ์ ซึ่งวางจำหน่ายทั่วไป
ดัดแปลง  หรือผลิตขึ้นมาเฉพาะบุคค  เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มเติม
ดูแลรักษา  หรือพัฒนาความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
ของผู้พิการที่ใช้อุปกรณ์นั้น ๆ"
ซึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกนี้หมายรวมถึงเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน
(Low Technology) ไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูง (High Technology)


การบริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก 


หมายถึง "การให้บริการใด
ๆ ก็ตามที่ช่วยเหลือผู้พิการโดยตรง ในการเลือก การจัดหา การหาความรู้
และการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก"
การให้บริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกรวมไปถึง


  1. การตรวจประเมินถึงความต้องการจำเป็นของผู้พิการแต่ละคน
    ซึ่งรวมไปถึงการประเมินความสามารถหรือศักยภาพในการทำงานในสิ่งแวดล้อมเฉพาะของแต่ละบุคคล 

  2. การซื้อ การเช่า หรือการจัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับผู้พิการแต่ละบุคคล

  3. การเลือก
    การออกแบบ การผลิตอุปกรณ์เฉพาะบุคคล การปรับแต่ง
    และการประยุกต์ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับผู้พิการแต่ละบุคคล
    ตลอดจนการบำรุงรักษา  การซ่อมแซม และการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เหมาะสม 

  4. การประสานงานและการหาความร่วมมือในการให้บริการอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกกับผู้รักษา
    นักวิชาชีพ ผู้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

  5. การฝึกหรือให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ
    ในการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการแต่ละบุคคล
    หรือครอบครัวของผู้พิการ  หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ
    รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ
    ทั้งผู้ที่ให้บริการด้านการศึกษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการ
    นายจ้างหรือหรือบุคคลอื่นๆ ซึ่งทำหน้าที่ให้การบริการ การจ้างงาน
    หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตส่วนใหญ่ของผู้พิการแต่ละบุคคล


ประเภทของเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก


อุปกรณ์ช่วยในการดำรงชีวิตประจำวัน (Aids for Daily Living)


อุปกรณ์ช่วยเหลือตนเอง
( Self help aids ) ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ได้แก่
อุปกรณ์ช่วยในการรับประทานอาหาร การอาบน้ำ การทำอาหาร การแต่งตัว
การขับถ่าย การทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น

การสื่อสารเสริมและทางเลือกอื่น (Augmentative and  Alternative Communication: AAC)


อุปกรณ์ต่างๆ
ทั้งที่เป็นระบบที่ใช้และไม่ใช้อิเล็กทรอนิกส์
ที่จัดทำหรือพัฒนาขึ้นมาเพื่อนำมาใช้สำหรับเสริมหรือทดแทนการติดต่อสื่อสารด้วยการพูด
ทั้งในด้าน  การแสดงออก และการรับข้อมูลสำหรับบุคคลต่าง ๆ
ที่มีความบกพร่องในการสื่อสาร

การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ (Computer Access)


อุปกรณ์/โปรแกรมต่างๆ
ที่ดัดแปลง ปรับปรุง หรือพัฒนาขึ้นมาเฉพาะ
เพื่อช่วยให้ผู้พิการสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้
ทั้งการป้อนข้อมูลและการแสดงผลข้อมูล เช่น เมาส์และคีย์บอร์ดแบบพิเศษ
แป้นคีย์บอร์ดที่แสดงผลเป็นอักษรเบรลล์ โปรแกรมสังเคราะห์เสียง เป็นต้น

ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อม (Environment Control Systems)


เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้บุคคลที่มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหว
สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ
ที่อยู่ในห้อง บ้าน หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น การเปิด-ปิดไฟ
การควบคุมการทำงานของโทรทัศน์

การดัดแปลงบ้านหรือสถานที่ทำงาน (Home/Worksite Modifications)


เป็นการดัดแปลงโครงสร้าง
หรือการสร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นในบ้าน สถานที่ทำงาน หรือในพื้นที่อื่นๆ เช่น
ทางลาด ลิฟต์ การปรับเปลี่ยนห้องน้ำ เป็นต้น ซึ่งอาจจะเป็นการโยกย้าย
หรือการลดอุปสรรคทางกายต่าง ๆ สำหรับผู้พิการแต่ละประเภท

กายอุปกรณ์เทียมและกายอุปกรณ์เสริม (Prosthesis and Orthosis) 


เป็นการแทนที่
การทำหน้าที่แทน หรือการเสริมส่วนที่ขาดหายไป
หรือเสริมการทำงานที่ผิดปกติของส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ด้วยการใช้กายอุปกรณ์เทียมต่างๆ เช่น แขนขาเทียม หรือกายอุปกรณ์เสริมอื่น
เช่น อุปกรณ์ประคองเท้า/ข้อเท้า อุปกรณ์ประคองแขน
นอกจากนี้ยังมีกายอุปกรณ์เทียมที่ช่วยผู้ซึ่งมีความบกพร่องหรือมีข้อจำกัดทางการรับรู้
ซึ่งรวมถึงเทปที่ใช้ในการรับฟังหรือเพจเจอร์

ที่นั่งและการจัดท่าทาง (Seating and Positioning)


เป็นระบบการจัดความสะดวกสบายบนรถเข็น
(Wheelchair)  หรือที่นั่งต่างๆ  ซึ่งจัดให้ส่วนต่าง ๆ
ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นศีรษะ ลำตัว แขนขา
ให้อยู่ในท่าทางที่เหมาะสมและถูกต้อง เพื่อเป็นการลดแรงกดผิวหนัง
หรืออาการเกร็งของกล้ามเนื้อ หรือช่วยให้ทรงท่าได้ดีขึ้น เช่น
การเสริมเบาะรองนั่ง การเสริมอุปกรณ์พยุงด้านข้างลำตัว
หรืออุปกรณ์ประคองศีรษะ เป็นต้น นอกจากนี้รวมถึงการจัดท่าทางอื่นๆ
ให้เหมาะสมด้วย เช่น การยืน การนอน เป็นต้น

อุปกรณ์สำหรับช่วยผู้ที่มีความบกพร่องทางการเห็น (Aids for Vision Impaired ) 


อุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการเห็นสามารถเห็นภาพต่างๆ
ได้ดีขึ้น หรือสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ แทนการเห็น ได้แก่
อุปกรณ์ช่วยในการขยาย (แว่นขยาย กล้องส่องทางไกล ฯลฯ)
อุปกรณ์ที่แสดงผลเป็นอักษรเบรลล์ หรือเสียง หรือตัวอักษรขนาดใหญ่
เครื่องโทรทัศน์วงจรปิดสำหรับการขยายตัวอักษร/ภาพบนเอกสาร เป็นต้น

อุปกรณ์สำหรับช่วยผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (Aids for Hearing Impaired)


อุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถรับฟังเสียงได้ดีขึ้น
หรือสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ แทนการได้ยินเสียง ได้แก่ เครื่องช่วยฟัง
อุปกรณ์ช่วยการฟังที่เป็นระบบอินฟราเรด หรือระบบ FM อุปกรณ์ช่วยขยายเสียง
โทรศัพท์ข้อความ ระบบสัญญาณเตือนต่างๆ ทั้งนี้เป็นระบบที่ใช้การมองเห็น
หรือการสัมผัส เป็นต้น

รถเข็น และ อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนที่ (Wheelchairs / Mobility Aids)


รถเข็นทั้งที่เป็นระบบที่ใช้มือและใช้อิเล็กทรอนิกส์
(Manual and Electric Wheelchair) เก้าอี้แบบเคลื่อนที่ได้ 
เครื่องช่วยเดิน  รถสกูตเตอร์แบบ 3 ล้อ   เครื่องช่วยยกและเคลื่อนย้าย
และยานพาหนะอื่นๆที่ช่วยในการเคลื่อนที่เฉพาะบุคคล

การดัดแปลงยานพาหนะ (Vehicle  Modifications )


ยานพาหนะที่ดัดแปลงเพื่อช่วยให้คนพิการขับเคลื่อนยานพาหนะได้ด้วยตนเอง
เช่น
การดัดแปลงอุปกรณ์เพื่อช่วยในการควบคุมยานพาหนะโดยใช้มือแทนการใช้เท้า 
การดัดแปลงรถตู้หรือยานยนต์อื่นๆ  ซึ่งใช้สำหรับการคมนาคมขนส่งผู้พิการ
เช่น  การติดเครื่องช่วยยกและเคลื่อนย้าย

อุปกรณ์ช่วยด้านการศึกษาและการเรียนรู้  (Academic and Learning Aids)


เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก
ตลอดจนสื่อการเรียนรู้ต่างๆ
ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของนักเรียนพิการให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการทำกิจกรรมต่างๆ
ในโปรแกรมการศึกษาที่จัดขึ้น
ทำให้นักเรียนพิการเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเรียนได้ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น

อุปกรณ์ช่วยการอ่าน (Reading Aids)


เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการอ่านให้แก่นักเรียนพิการที่มีความยากลำบากในการอ่าน
ที่มีทักษะพื้นฐานการอ่านคำและประโยคไม่ดี
มีปัญหาในการรับรู้ข้อมูลสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ผ่านการมอง
อาจทำให้มีความยากลำบากในการสะกดคำ การตัดคำ
หรือบางคนอาจเห็นตัวหนังสือหัวกลับ  เป็นต้น เช่น
นักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้  เป็นต้น
อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกช่วยในการอ่าน เช่น  


  • กรอบบรรทัดช่วยการอ่าน
    (Reading Window)
    เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้นักเรียนที่มีความยากลำบากในการกวาดสายตาอ่านคำหรือประโยคในแต่ละบรรทัดที่ติดกัน
    สามารถใช้กรอบบรรทัดช่วยอ่านแยกบรรทัดของคำหรือประโยคแต่ละบรรทัดที่ติดกันให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น
    ทำให้สามารถอ่านคำหรือประโยคที่ปรากฎในแต่ละบรรทัดได้ง่ายและสะดวกขึ้น
    เช่น นักเรียนที่บกพร่องทางการเห็นที่เห็นเลือนราง  เป็นต้น

  • โปรแกรมประมวลผลคำที่มีเสียงสังเคราะห์
    (Talking word processing program)
    ช่วยให้นักเรียนที่มีความยากลำบากในการรับรู้ข้อมูลจากการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยการมอง
    เปลี่ยนมาใช้การฟังเสียงผ่านโปรแกรมประมวลผลคำที่มีเสียงสังเคราะห์แทน
    โดยเปิดไฟล์ข้อมูลที่ต้องการให้นักรเรียนอ่านผ่านโปรแกรมนี้

  • โปรแกรมประมวลผลคำที่มีภาพประกอบ
    (Graphic-based word processing program)
    เป็นโปรแกรมที่สามารถแสดงผลข้อมูลเป็นภาพและคำประกอบกัน
    ทำให้ง่ายต่อการเริ่มต้นการอ่าน
    ซึ่งการอ่านจากภาพจะทำให้นักเรียนที่มีปัญหาในการรับรู้ข้อมูลจากการอ่านตัวอักษร
    สามารถอ่านคำจากภาพที่เห็นได้ง่ายขึ้น 

  • ปากกาแถบสี
    ใช้สำหรับลากแถบสีบนคำหรือข้อความสำคัญที่เน้นให้อ่าน
    เพื่อช่วยให้นักเรียนที่มีปัญหาในแยกแยะข้อมูลในการมอง
    สามารถแยกแยะคำที่ต้องอ่านได้ดีขึ้น

  • โปรแกรมอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบมัลติมีเดียระบบเดซี
    นักเรียนที่มีความบกพร่องในการอ่านหนังสือที่ใช้การมองข้อมูลจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
    สามารถเปลี่ยนวิธีการรับรู้ข้อมูลผ่านการฟังเสียงประกอบกับข้อความที่ต้องการอ่านผ่านโปรแกรมอ่านหนังสือเสียงอิเล็กทรอนิกส์แบบมัลติมีเดียระบบเดซีได้ง่ายและสะดวกขึ้น
    ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถแสดงข้อมูลเป็นทั้งเสียง  ข้อความ และภาพไปพร้อมๆ กัน
    อีกทั้งยังสามารถแสดงแถบสีไปยังคำหรือประโยคที่โปรแกรมกำลังอ่านให้เห็นด้วย
    ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้การอ่านคำและประโยคได้ดีขึ้น


อุปกรณ์ช่วยการสะกดคำ (Spelling Aids) 


เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเขียนสะกดคำให้แก่นักเรียนที่มีความยากลำบากในการเขียน
เนื่องจากมีความบกพร่องในการรับรู้และการวิเคราะห์ข้อมูล
ทำให้มีความยากลำบากในการเขียนสะกดคำ ตัวอย่างเช่น


  • รายการคำศัพท์หรือพจนานุกรมคำศัพท์ (Personal word list or dictionary)

  • โปรแกรมประมวลผลคำที่มีฟังก์ชันเช็คการสะกดคำ 

  • โปรแกรมประมวลผลคำที่มีเสียงสังเคราะห์ร่วมกับมีฟังก์ชันเช็คการสะกดคำ

  • โปรแกรมเดาคำศัพท์


อุปกรณ์ช่วยการเขียน (Writing Aids) 


อุปกรณ์ที่เน้นช่วยกลุ่มนักเรียนพิการที่มีความยากลำบากในการควบคุมการใช้กล้ามเนื้อแขนและมือทั้งสองข้างในการจับอุปกรณ์การเขียนปกติในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเขียน
ตัวอย่างอุปกรณ์ เช่น อุปกรณ์ช่วยจับดินสอหรือปากกา
กรอบบรรทัดสำหรับเขียนข้อความ เครื่องจดบันทึกอิเล็กทรอนิกส์
ตลอดจนการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยพิมพ์แทนการเขียน เป็นต้น

อุปกรณ์ช่วยการคำนวณ (Math Aids) 


สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องในการคำนวณ เช่น เครื่องคิดเลข โปรแกรมที่ช่วยในการคำนวณคณิตศาสตร์ เป็นต้น

อุปกรณ์ช่วยกิจกรรมนันทนาการและเวลาว่าง(Recreation and Leisure Aids)


เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้พิการในการทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เช่น การเล่นกีฬา การเล่นของเล่นของเด็กพิการ เป็นต้น

เทคโนโลยีการสื่อสาร

1..Oho-idea สำหรับแนวคิดแปลกใหม่น่าสนใจของเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือในอนาคตหรือ Concept Phone ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัย ฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลาย ไม่ยึดติดกับรูปร่างลักษณะแบบเดิมๆ ของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ตอบสนองผู้ใช้งานและเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีใน อนาคต
Weather Cell Phone Concept : แนวคิดเพื่อบอกสภาพดินฟ้าอากาศ
แนวคิดมือถือ โทรศัพท์มือถือบอกสภาพดินฟ้าอากาศ (Weather Cell Phone Concept) มีแนวคิดและจุดเด่นตรงตัวเครื่องทำจากวัสดุ โปร่งใส ขนาดบางเฉียบ หน้าจอสามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่ตัวเครื่อง ใช้ระบบสัมผัสในการควบคุมการทำงาน สามารถตรวจวัดสภาพอากาศในปัจจุบันแล้วแสดงผลบนตัวเครื่องได้ อย่างเช่น อากาศปลอดโปร่ง หน้าจอจะใสแจ๋ว หากฝนตกตัวเครื่องก็จะมีหยดน้ำฝนเกาะอยู่ และถ้ามีหิมะตกหน้าจอก็จะเป็นฝ้าด้วยไอความเย็นของหิมะ และหากต้องการโทรออกหรือเขียนข้อความ เพียงแค่ใช้ปากเป่าลมไปยังหน้าจอ ก็สามารถเขียนตัวอักษรหรือวาดรูปต่างๆ ลงไปได้เลย
ผลงานการออกแบบของ Seunghan Song





2..Mobile script Concept : แนวคิดหน้าจอระบบ สัมผัสที่สามารถดึงเข้า-ออก
โดย แนวคิดโทรศัพท์มือถือร่วมสมัย เพื่อต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9.5 นิ้วที่สามารถดึง เข้า-ออกจากตัวเครื่องด้านข้างได้ หรือที่เรียกว่า "Script Concept" ซึ่งเหมือนวิธีการ ส่งสาร จดหมายสมัยโบราณ ที่ส่งเป็นลักษณะม้วนกระดาษ นับว่าเป็นแนวคิดที่ดี ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสมัยใหม่ได้ดีทีเดียว
ผลงานการออกแบบของ Aleksander Mukomelov
  


   
3..Projector Cell Phone Concept: แนวคิดมือถือติดโปรเจคเตอร์
แนวคิดมือถือโทรศัพท์มือถือที่ต้องการเป็นมากกว่ามือถือธรรมดา เป็นแนวคิดสมาร์ทโฟนขนาดบางเฉียบ ติดโปรเจคเตอร์หรือเครื่องฉายภาพ (Projector Concept) ไว้ ตรงกลางของตัวเครื่องรอยต่อระหว่างจอแสดงผลที่สามารถหมุนขึ้นได้กับแผงปุ่ม กด ผู้ใช้สามารถส่งภาพในโทรศัพท์ออกไปยังฉากหรือผนังเพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่ ได้
ผลงานการออกแบบของ Stefano Casanova
  


4..Alarm Clock Cell Phone Concept: แนวคิดมือถือกับนาฬิกาปลุกตั้งโต๊ะ
แนวคิดโทรศัพท์มือถือนาฬิกาปลุกตั้งโต๊ะ Sony Ericsson รูปทรงคล้ายนาฬิกาปลุกตั้งโต๊ะ มองเห็นเวลาชัดเจนด้วยรูปแบบนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่น Walkman, ติดกล้องถ่ายรูป และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด AAA 2 ก้อน
ผลงานการออกแบบของ Carl Hagerling
  5..Pen Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือ ถือรูปทรงปากกา
แนวคิดโทรศัพท์มือถือรูปทรงปากกา ความยาว 8.7 นิ้ว ปุ่มกดตัวเลข 1-9 เรียงจากหัวปากกาไป ด้านบน ถัดไปเป็นจอแสดงผล รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD ภายในประกอบด้วย ฟังก์ชั่นพื้นฐานเหมือนโทรศัพท์ทั่วไป เพียงแต่ว่าง่ายต่อการพกพาสะดวกกว่าเท่านั้น
  



6..Edge Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือถือรูปทรงสไลด์หรู
แนวคิดโทรศัพท์มือถือรูปทรงสไลด์ ที่มีแผงปุ่มกดทำจากวัสดุโปร่งใส ขนาดบาง ใช้ระบบสัมผัส เมื่อเราต้องการกดหมายเลขก็เพียงเลื่อนสไลด์แผงปุ่มที่ใสๆ ออกมาเท่านั้นเอง
ผลงานการออกแบบของ Chris Owens
  
7..Grass Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือ ถือต้นหญ้า
แนวคิดโทรศัพท์มือถือต้นหญ้าหรือ Grass Cell Phone มาจากแนวคิดเนื่องด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์ เทคโนโลยีให้ควบคู่กันไปได้อย่างลงตัว จึงไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมือถือต้นหญ้าเครื่องนี้ก็จะค่อยๆ ย่อยสลายตัวเองไปตามกาลเวลาภายในระยะเวลา 2 ปี เพราะว่าวัสดุที่ใช้ทำเป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้นั่นเอง
ผลงานการออกแบบของ Je-Hyun Kim
  



8..Mechanical Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือ ถือพลังงานกล
แนวคิดโทรศัพท์มือถือพลังงานจากกลไกการหมุนตัว เครื่อง ด้วยการใช้นิ้วสวมลงไปในรูวงกลมแล้วหมุนโทรศัพท์ไปรอบๆ นิ้วมือ เพียงแค่นี้โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ก็มีพลังงานเพิ่มขึ้นพร้อมด้วยหน้า จอแสดงผลระบบสัมผัสบอกสถานะการชาร์จ
ผลงานการออกแบบของ Mikhail Stawsky
 



9..Flexible Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือ ถือกำไลข้อมือ
แนวคิดโทรศัพท์มือถือกำไลข้อมือ หรือนาฬิกา โดยตัวเครื่องทำมาจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอ ยึดปลายทั้งสองเข้าหากัน ใช้เป็นกำไลข้อมือ พกพาไปไหนได้สะดวกมากขึ้น
ผลงานการอกแบบของ Shirley A. Roberts


10..Ear Cell Phone Concept: แนวคิดโทรศัพท์มือ ถือหูฟังล่องหน
แนวคิดโทรศัพท์มือถือหูฟังล่องหนหรือที่เรียก ว่า "Ilshat Garipov" ออกแบบให้มีขนาดบาง เฉียบ มีลักษณะคล้ายคลิปหนีบ ดึงส่วนยื่นออกมาเกี่ยวกับช่องหู คล้ายหูฟัง วัสดุประกอบตัวเครื่องแต่ละชั้นใช้โพลิเมอร์สอดแทรกด้วยชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และเซ็นเซอร์จำนวนมากสามารถตรวจจับผิวหน้าสัมผัสกับตัวเครื่องเปลี่ยนสีพื้น ผิวโทรศัพท์ให้เหมือนกับบริเวณที่ส่วมใสอยู่ ดูผ่านๆ แล้วเหมือนกับโทรศัพท์ล่องหนได้
ผลงานการอกแบบของ Kambala



เทคโนโลยีการแสดงผลเสียง

1.MIDI ( มิดี้) ย่อมาจากคำว่า Musical Instrument Digital Interface ถ้าแปลตรงๆ ก็คือ การเชื่อมต่อของเครื่องดนตรี   ในระบบดิจิดอล  MIDI คือระบบการสื่อสารระหว่างเครื่องดนตรีต่างๆ ทั้งชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกัน ทั้งยี่ห้อเดียวกันหรือต่างยี่ห้อกัน และยังรวมมาถึงจากคอมพิวเตอร์ กับเครื่องดนตรีด้วย MIDI เกิดขึ้นโดยบรรดานักดนตรีก็เกิดความต้องการที่จะเล่นเสียงของ เครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นพร้อมๆ กันขึ้นมา ซึ่งพวกเขาได้ทำปรับเสียงของคีย์บอร์ดหลายๆ ตัวเอาไว้ ตัวละเสียง แต่พวกเขา ก็ยังไม่สามารถควบคุมได้หมด ในบางครั้งนักดนตรีต้องการเล่นเสียงของเครื่องเป่า 5 ชิ้นพร้อมๆ กันในโน็ตตัวเดียวกัน ( unison ) เพื่อทำให้เสียง หนา ขึ้น  แต่ก็สุดปัญญาที่จะเล่น เครื่องดนตรี5 ชิ้นพร้อมกันเนื่องมีมือแค่สองมือ และมีเพียงสองเท้าเท่านั้น  นักดนตรีจึงต้องการ ความช่วยเหลือ จากระบบควบคุมเครื่องดนตรีทั้งหมดซึ่ง เชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์
       ดังนั้น นักดนตรีทั้งหลายจึงต้องการอุปกรณ์ที่จะช่วยเชี่อมต่อเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นเข้าด้วยกัน โดยที่จะต้องไม่ขึ้นกับว่าเป็น เคริองดนตรีชนิดเดียวกันหรือมาจากบริษัทเดียว กันหรือไม่  และมาตรฐานนี้จะต้องสามารถใช้ควบคุมเครื่อง ดนตรีที่เป็น Electronic ทุกชนิดต่อไปในอนาคตด้วย
     มาตรฐานของ MIDI  จึงได้ถูกตั้งขึ้นมาโดยการร่วมมือกันของบรรดา บริษัทผู้ผลิตเครื่องดนตรี เพื่อต้องการสร้างมาตรฐานในการเชื่อมต่อ เครื่องดนตรีหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องคำนึงถึงยี่ห้อ  หรือ รุ่น MIDI จึงเป็นข้อมูลที่แสดงถึงลักษณะเสียงที่แทนเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรฐานในการสื่อสารด้านเสียง ที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปีค.ศ.1980  สำหรับใช้กับเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์  โดยในมุมมองของนักดนตรี  MIDI คือโน้ตเพลงที่มีรูปแบบเป็นสัญลักษณ์หรือตัวเลขที่จะบอกให้รู้ว่าต้องเล่นโน้ตตัวใดในเวลานาน เท่าไรเพื่อให้เกิดเป็นเสียงดนตรี 
      ดนตรีแบบ MIDI จะไม่เหมือนเสียงจากเครื่องดนตรีจริงๆดังนั้นเครื่องมือในการเล่นเพลงแบบ MIDI จะมีผลต่อคุณภาพเสียงที่ได้ 
     ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการสร้างและปรับแต่งเสียงMIDIให้มีความไพเราะมากยิ่งขึ้น
เครื่องดนตรีแบบ MIDI
Keyboard
ความสำคัญอย่างหนึ่งของ MIDI คือ
    สามารถใช้งานร่วมกันกับคอมพิวเตอร์ที่มีระบบดนตรีซึ่งการใช้คอมพิวเตอร์จะพาไปสู่มิติอื่นอย่างไม่มี ที่สิ้นสุด และสามารถเก็บเพลงลงในคอมพิวเตอร์ได้ทันที และเรียกส่วนนั้นมาใช้งานได้ทุกเวลา 
    -ถ้ารู้วิธีเขียนตัวโน้ต เราก็สามารถผลิตผลงานเพลงด้วยตัวเองโดยถูกต้องและแจกจ่ายเพลง ให้กับคนอื่น ๆ ได้ ข้อดี ไฟล์ข้อมูลมีขนาดเล็ก การสร้างข้อมูล MIDI ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีจริงๆ ใช้หน่วยความจำน้อยทำให้ประหยัดพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ เหมาะสำหรับใช้งานบนระบบเครือข่าย และง่ายต่อการแก้ไขและปรับปรุง
    ข้อเสีย แสดงผลเฉพาะดนตรีบรรเลงและเสียงที่เกิดจากโน้ตดนตรีเท่านั้น และอุปกรณ์อิเล็กกทรอนิกส์ที่ใช้สร้างมีราคาค่อนข้างสูง  

2. Bluetooth Headset เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ข้างใบหู

          รู้หรือเปล่าว่าหูฟังชิ้นเล็ก ๆ นี้มีเทคโนโลยีมากมายที่ได้ถูกบรรจุเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น
เทคโนโลยีในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่จะช่วยให้การสนทนาของเรา เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งมีเทคโนโลยีหลายรูปแบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่น การใช้ไมค์รับเสียงแบบพิเศษที่สามารถตรวจสอบคลื่นรบกวน เสียงลม เสียงรอบข้างที่ไม่ใช่เสียงพูดได้ หรือการใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับการขยับของกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นข้อมูล ประกอบการตัดสินใจในการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้หูฟังบลูทูธอย่าง Jawbone ยังสามารถลงแอพพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มความสามารถ เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานได้อีกด้วย









สัมผัสเดียว

     จับคู่สมาร์ทโฟน NFC กับลำโพงไร้สายของ Sony ทำได้ง่าย เพียงสัมผัสเดียวและลำโพงแบบพกพาก็จับคู่ได้และพร้อมสำหรับเสียงเพลง ถ้าใครบางคนใกล้ๆ คุณอยากให้เพลงของตนดัง ก็เพียงแตะลำโพงด้วยสมาร์ทโฟน (NFC) ของพวกเขาเอง สัมผัสเดียว เพลงใหม่

เป็นอิสระด้วย Bluetooth™

    ไม่มีการเชื่อมต่อสาย โทรศัพท์ของคุณหรืออุปกรณ์อื่น ๆ สตรีมเพลงไปยังลำโพงไร้สายของคุณผ่านทาง Bluetooth ™ เสียงใสชัดเจนและคุณมีอิสระที่จะเคลื่อนที่

ลำโพง

    เมื่อมีการโทรเข้ามา กดปุ่มตอบรับ เสียงเพลงจะจางหายไปและคุณสามารถรับสายด้วยลำโพง Bluetooth™ ลำโพงไร้สายมีไมโครโฟนในตัว ทำให้เหมาะอย่างยิ่งเมื่อคนอื่นๆ ในห้องต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการสนทนา







(4.)  หูฟังไร้สาย
         ต้องการโทรแบบแฮนด์ฟรีด่วนที่สุด คุณสมบัติ Always Ready ให้คุณเชื่อมต่อชุดหูฟังเข้ากับโทรศัพท์ของคุณโดยไม่จุกจิกหรือยุ่งยาก แค่นำชุดหูฟังออกจากกล่อง ที่เหลือชุดหูฟังจะจัดการให้คุณเอง เปิดใช้งาน ทำการเชื่อมต่อ และตอบรับสายเรียกเข้า และเมื่อสนทนาเสร็จแล้ว ใส่กลับลงไปในแท่นจากนั้นสายจะวางเองโดยอัตโนมัติ







(5.)  Sound Card (การ์ดเสียง) คืออะไร

          เสียงเป็นส่วนสำคัญของระบบมัลติมีเดียไม่น้อยกว่าภาพ ดังนั้นการ์ดเสียงจึงเป็นอุปกรณ์ จำเป็นที่สำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ มัลติมีเดีย 
Sound-Card
          การ์ดเสียงได้รับการพัฒนาคุณภาพอย่างรวดเร็วเพื่อ ให้ได้ประสิทธิภาพของเสียงและความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ตลอดจนระบบเสียง 3 มิติในปัจจุบัน ความชัดเจนของเสียง จะมีประสิทธิภาพดีเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ อัตราการสุ่มตัวอย่าง และความแม่นยำ ของตัวอย่างที่ได้ ซึ่งความแม่นยำของตัวอย่างนั้นถูกกำหนด โดยความสามารถของ A/D Converter ว่ามีความละเอียดมากน้อยเพียงใด ทำอย่างไรจึงจะประมาณ ค่าสัญญาณดิจิตอลได้ใกล้เคียงกับสัญญาณเสียงมากที่สุด ความละเอียดของ A/D Converter นั้นถูก กำหนด โดยจำนวนบิตของสัญญาณดิจิตอลเอาต์พุต เช่น
          - A/D Converter 8 bit จะสามารถแสดงค่าที่ต่างกันได้ 256 ระดับ
          - A/D Converter 16 bit จะสามารถแสดงค่าที่ต่างกันได้ 65,536 ระดับ
หากจำนวนระดับมากขึ้นจะทำให้ความละเอียดยิ่งสูงขึ้นและการผิดเพี้ยนของ สัญญาณเสียงยิ่งน้อยลง นั่นคือประสิทธิภาพที่ของเสียง ที่ได้รับดีขึ้นนั่นเอง แต่จำนวนบิตต่อหนึ่งตัวอย่างจะมากขึ้นด้วย







(6.)  Razer Kraken 7.1 USB Headset Review [หูฟังเกมมิ่งระบบจำลองเสียง 7.1]

         พบกันอีกครั้งกับบทความรีวิวอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่หลากหลายคนอยากจะได้เห็นตัวจริงๆ ของอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่เราได้สัมผัสด้วยมือของทีมงาน แล้วก็เอาสิ่งที่เราสามารถรับรู้ได้มาบอกเล่าต่อกันให้ชาว NBS ได้ทราบ คราวนี้ก็วนกลับมากันที่หูฟังอีกครั้ง แต่คราวนี้จะมีความพิเศษตรงที่เป็นหูฟังเกมมิ่ง กับแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Razer ซึ่งเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวช้องกับเกมเมอร์ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ และหูฟัง อย่างในรีวิวน้ีก็จะเป็นหูฟังรุ่น Razer Kraken 7.1 USB Headset โดยมาพร้อมกับคุณภาพที่ไว้ใจได้ ดีไซน์ที่โฉบเฉียว และที่สำคัญคือคุ้มค่าคุ้มราคา 3,790 บาท กับฟีเจอร์ที่ได้
   

ตัวกล่องมาแบบค่อนข้างดูดีใช้ได้เลย ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กก็ตาม โทนสีก็เน้นสีดำและเขียวเป็นหลัก แสดงถึงพลังและความดุดันในตัว ที่นอกจากนี้ยังบอกถึงฟีเจอร์อื่นๆ อย่างเช่น เป็นหูฟังระบบ 7.1 แชนแนลแบบจำลอง, มีเสียงคุณภาพสูงเพื่อใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ ไมค์ที่ใช้เป็นแบบดิจิตอลที่ให้คุณภาพสูง, ดีไซน์มาไว้เพื่อนักเล่นเกมมืออาชีพ และรองรับการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB พร้อมการปรับแต่งด้วยซอฟต์แวร์ Synapse 2.0 ผ่านทางคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังมีไฟโลโก้ Razer สวยงาม  
   

รูปร่างหน้าตาของหูฟัง Razer Kraken 7.1 USB Headset จะมีลักษณะเรียบๆ สีดำที่ดูดีและหรูหรา ซึ่งวัสดุที่ใช้เป็นหลักคือพลาสติดคุณภาพสูงมีความยืดหยุ่นให้ความรู้สึกที่ไม่แตกหักง่ายๆ ผิวสัมผัสเป็นแบบลื่นๆ แต่มีความรู้สึกมั่นคงเมื่อได้สัมผัส โดยในส่วนของหูฟังทั้ง 2 ข้างจะเป็นขนาด Full Size มีการบุผ้านุ่มนวลอย่างดีเอาไว้ รวมไปถึงบริเวณที่คาดบนที่จะเป็นจุดที่สัมผัสกับหัวของเราขณะสวมใส่ ส่งผลให้เวลาสวมใส่ใช้งานมีความสบาย ส่วนที่คาดของหูฟังนั้นจะเป็นการเล่นสีเขียวเอาไว้ ซึ่งโดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่ามีการออกแบบดีไซน์คล้ายกับ Razer Kraken Headset ตัวธรรมดาพอสมควรทีเดียว ซึ่งน่าจะถูกใจบรรดาแฟนๆ ของ Razer อยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย
   

แน่นอนว่าเราสามารถพับเก็บหูฟังรุ่นนี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการพับไปมา ส่งผลให้เวลาพกพาไปไหนมาไหนก็มีความสะดวกสบายไม่เป็นภาระเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังสามารถปรับระดับได้ เพื่อให้เหมาะสมกับศีษระของแต่ละบุคคล ซึ่งในส่วนของงานประกอบตามข้อต่อรวมไปถึงส่วนอื่นๆ นั้นมีความเรียบร้อยดี เรียกได้ว่าใช้งานได้สบายใจหายห่วง 
ตัวฟองน้ำครอบหูก็เป็นแบบนิ่ม ใส่สบายพอควร แต่ถ้าใช้นานๆ อาจจะบีบหูจนเจ็บได้ และอาจจะเป็นตัวเรียกเหงื่อมารวมกันได้ดีทีเดียว ดังนั้นก็อย่าใส่ติดต่อกันนานๆ นะครับ (ก็ใส่ตอนเฉพาะจะเล่นเกมพอน่ะ) ส่วนเรื่องของการกันเสียงภายนอกนั้น ทำได้ค่อนข้างดีเลย ทั้งเสียงทุ้ม กลางแหลม อีกทั้งที่บริเวณข้อต่อระหว่างหูฟังกับก้านนั้น สามารถปรับโยกองศาของตัวหูฟังได้เล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับใบหูของแต่ละคน
 

พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB อย่างที่แจ้งไว้ตั้งแต่ตอนต้น โดยเป็นบบชุบทองคำ 24k ทำให้สามารถส่งสัญญาณเสียงได้โดยมีสัญญาณรบกวนน้อยกว่าโลหะทั่วไป ซึ่งด้วยความเป็น USB มีข้อดีก็คือสามารถปรับแต่งการใข้งานได้ด้วยซอฟต์แวร์ แต่ก็มีข้อเสียคือ ใช้ได้เฉพาะในส่วนของคอมพิวเตอร์เท่านั้น สำหรับหน้าตาของสายสัณญาณ Razer Kraken 7.1 USB Headset ก็ถือได้ว่ามีความเรียบง่ายทีเดียว ด้วยวัสดุสายถักที่มีความยืดหยุ่นซึ่งมีความยาวประมาณ 2 เมตร ที่เพียงต่อต่อการใช้งานทั้งโน้ตบุ๊คและพีซี
   

ขนาดของหูฟังก็เป็นแบบใหญ่ครอบหัวได้พอดี อีกทั้งยังเลือกใช้ไดร์ฟลำโพงขนาดใหญ่คุณภาพสูงอย่าง Neodymium Magnets ขนาด 40 มิลลิเมตร ที่มีช่วงเสียง 20Hz – 20kHz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานเล่นเกมสบายๆ (ตามขอบเขตที่หูมนุษย์นั้นรับรู้ได้) อีกทั้งมีค่าความต้านทานอยู่ที่ 32 โอมตามมาตรฐานหุฟังคุณภาพ โดยมีกำลังสูงสุด 30 mW ที่เรียกได้ว่าเหมาะสมในการใช้งานทีเดียว ในการใช้งานจริงด้วยน้ำหนักตัวหูฟังอยู่ที่ 340 กรัม ก็ถือได้ว่าสวมใสได้อย่างสะดวกสบายไม่เมื่อยล้า สำหรับไมค์เมื่อเราต้องการใช้งานก็เพียงดึงออกมาจากช่องเก็บเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถปรับความยาวและตำแหน่งของไมค์ได้ตามต้องการ 
ที่สำคัญเมื่อเราเสียบใช้งาน Razer Kraken 7.1 USB Headset ไฟก็จะติดขึ้นมาทันที จากในส่วนของหูฟังทั้งสองข้างและตัวไมค์ ที่จัดได้ว่ามีความสวยงามและโดดเด่นมากๆ ทีเดียว